รักษางูสวัด โรคผิวหนังรักษาด้วยสมุนไพร
โรคงูสวัด โดยส่วนใหญ่พบผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้ในประเทศไทย พบมากในวัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ มักเกิดบริเวณผิวหนังตามร่างกาย มีลักษณะเป็นผื่น หรือตุ่มตามยาว แต่โดยปกติแล้วจะขึ้นบริเวณบั้นเอว หรือแนวชายโครง ในบางคนอาจขึ้นที่ใบหน้า แขน หรือขา มีลักษณะที่คล้ายกันอยู่หนึ่งอย่าง คือ จะขึ้นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกายเท่านั้น
โรคงูสวัด ไม่มีอันตรายร้ายแรงและหายได้เองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในผู้ป่วยบางคนหลังจากที่แผลหายแล้วอาจมีการปวดตามเส้นประสาทเป็นเวลานาน หรืออาจะเกิดภาวะแทรกซ้อมตามมาได้ ส่วนผู้ป่วยบางรายที่เป็นโรคงูสวัดแล้วเกิดการเสียชีวิต นั่นอาจมีสาเหตุมากจากว่าร่างกายผู้ป่วยอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอและขาดภูมต้านทานโรคที่แข็งแรง สามารถแบ่งการระยะของโรคงูสวัดออกได้เป็น 3 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1
ในระยะนี้จะเป็นช่วงที่ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานของร่างกายที่ลดต่ำลง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดและแสบร้อนตามผิวหนังโดยที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้
ระยะที่ 2
ระยะเวลาผ่านไปได้ 2 – 3 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีผื่นแดงขึ้นบริเวณผิวหนัง จากนั้นจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ เรียงกันเป็นกลุ่ม เป็นแนวยาวไปตามกลุ่มของเส้นประสาทในร่างกาย อาทิ ตามแขน ขา แผ่นหลัง หรือรอบๆ เอว
ระยะที่ 3
ต่อมาหลังจากที่แผลเกิดการตกสะเก็ด แห้ง และหายดีแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะยังมีอาการปวดและแสบร้อนตามรอยแนวของแผลอยู่ ในผู้ป่วยบางคนอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะหายเป็นปกติ ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของภูมิต้านทานโรคในแต่ละบุคคล
โรคงูสวัดสามารถติดต่อกันได้ง่ายด้วยการสัมผัส ระยะที่ติดต่อเป็นระยะที่มีผื่น ตุ่มน้ำใส และระยะตกสะเก็ด ส่วนในรายที่ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน หากไปสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นโรคงูสวัด หากไปสัมผัส บุคคลนั้นก็จะเป็นโรคอีสุกอีใสก่อน
การรักษาโรคงูสวัดด้วยสมุนไพร
สูตรที่ 1
ให้ใช้ใบเสลดพังพอนสดๆ 15-20 ใบ ตำผสมเหล้าโรง 28 ดีกรี แล้วใช้พอกตามตุ่มของงูสวัดให้ทั่ววันละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกันทุกวัน ให้ใช้ใบสดอีกประมาณ 15-20 ใบตำกับน้ำซาวข้าวครึ่งถ้วยชาวันละ 2 ครั้งก่อนอาหารเพื่อขับพิษ หรือนำใบเสลดพังพอนสด 10-15 ใบ ล้างให้สะอาด ใส่ครกตำยา ตำให้ละเอียด
ตักลงใส่ภาชนะสะอาด และเติมเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์พอท่วมยา ปิดฝาให้มิดชิด ตั้งทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ หมั่นคนยาทุกวัน กรองน้ำยาและเก็บใส่ภาชนะที่สะอาด นำน้ำยามาทาบริเวณที่ปวดบวม หรือใช้กากพอกร่วม หรือหากใช้เป็นยาภายนอกรักษาเริมและงูสวัด ให้ทาบริเวณที่เป็นวันละ 4-5 ครั้ง
สูตรที่ 2
ประกอบด้วย ใบย่านาง 10 ใบ ใบพลู 3-5 ใบ ว่านหางจระเข้ปลอกเอาแต่วุ้น 2 หาง ใบพญายอสด 1-2 กำมือ ใบเหงือกปลาหมอ 2-3 ใบ ข้าวสารเหนียวแช่น้ำนิดหน่อย และน้ำสะอาด 1-2 แก้ว
จากนั้นล้างสมุนไพรทั้งหมดให้สะอาด แล้วเอาทั้งหมดปั่นแล้วกรองคั้นเอาแต่น้ำมาทาบริเวณผื่น ส่วนที่เหลือก็แช่เย็นเก็บไว้ ช่วยรักษาผื่นบวมและตุ่มใสๆ ของโรคงูสวัดได้
สูตรที่ 3
พญายอ โดยใช้ใบสด 10-20 ใบ นำมาตำผสมกับเหล้าขาวหรือน้ำมะนาว จากนั้นคั้นเอาน้ำมาดื่มหรือเอาน้ำมาทาแผล และส่วนของกากนั้นให้นำมาพอกแผล รักษาอาการอักเสบของผิวหนังได้ทั้งเริมและงูสวัด
#1แชร์=1ธรรมทาน แชร์ไปได้บุญ สร้างกุศลความดี
#ถ้าข้อมูลนี่เป็นประโยชน์และสามารถช่วยใครได้อีกหลายๆคน อย่าเก็บไว้อ่านคนเดียวน๊า!! อย่าลืมส่งให้คนที่คุณรัก ได้อ่านด้วยนะคะ