รู้ให้ทันตำรวจ สิ่งที่ควรทำ หากถูกตำรวจเรียกค้นรถ ค้นตัว

รู้ให้ทันตำรวจ สิ่งที่ควรทำ หากถูกตำรวจเรียกค้นรถ ค้นตัว

เชื่อว่าหลายๆคนที่ใช้รถใช้ถนนอยู่เป็นประจำ จะต้องเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ พบเจอตำรวจหรือด่านตำรวจและขอทำการตรวจรถ ค้นภายในรถในขณะขับขี่อยู่เป็นจำนวนมาก แม้หลายๆคนจะไม่ได้ทำอะไรผิดแต่ก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่ใช่น้อย อีกทั้งเรายังไม่รู้กฎหมาย ไม่รู้เท่าทันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ในบางครั้งเราไม่สามารถปกป้องสิทธิ์ของตนเองได้

วิธีนี้เป็นวิธี ของทนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ โดยตัวเขาได้ออกมาโพสต์ข้อมูลดีๆและความรู้ดีๆให้กับประชาชนในเรื่องของการเอาตัวรอด เมื่อไม่ได้ทำผิดแต่ถูกตำรวจเรียก และตัวเรานั้นมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ซึ่งบอกเลยว่าควรห่างกันเอาไว้นะคะเพราะอาจจะเกิดกรณีฉุกเฉินเหล่านี้ก็ได้โดยมีการระบุข้อความดังนี้ว่า

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 บัญญัติว่า “ผู้ใดจำต้อง กระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิ์ของตน หรือ ของผู้อื่นให้พ้นภยันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย” …ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 บัญญัติว่า “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหาย ถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์ สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทด แทนเพื่อการนั้น”

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สุดใน social ถามมากันมากว่า “สมมติว่าถ้าถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้นเราสามารถทำอะไรได้บ้าง? และเรามีสิทธิ์ที่จะถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอไว้ได้หรือไม่

1. หากเราถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอไว้ได้ โดยไม่เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้น ต้องขอบอกว่าเราสามารถทำได้เพราะถือว่าเป็นการป้องกันสิทธิ์ของตนเองได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

affaliate-2

2. ในการถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอไว้นั้น ในขณะที่ตำรวจขนจะทำให้เกิดผลดีและผลเสีย ก็ให้เราจดแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบเลยว่า ถ้าเรามีสิ่งของผิดกฎหมายก็จะเป็นพยานหลักฐานดำเนินคดีให้กับตัวเราเองแต่ถ้าไม่ก็จะเป็นหลักฐานในการยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง

3. ก่อนการตรวจค้นเราก็ต้องขอให้เจ้าหน้าที่แสดงความบริสุทธิ์ใจเช่นเดียวกันเช่นแสดงบัตรประจำตัว,ข้าราชาการถลกแขนเสื้อแขนยาวขึ้น,ล้วงกระเป๋าเสื้อควักออกมา,ล้วง กระ เป๋า กางเกงสองข้างควักออกมาเพื่อให้เห็นว่าไม่มีสิ่งซุกซ่อนอยู่ และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นและเราต่างร่วมกันถ่ายภาพวิดีโอไว้พร้อมกัน เพื่อเป็นหลักฐานทั้งสองฝ่าย

4. เจ้าหน้าที่ที่ตรวจค้นจะต้องแสดงตนโดยเปิดเผย มิใช่ใส่หน้ากากคุมหน้าหรือสวมหมวกไอ้โม่ง อันเป็นข้อพิรุธหรือข้อสงสัยของผู้สัญจรไปมา อันไปสู่การวิตกหรือกังวลใดใดต่อการตรวจค้นในครั้งนั้น

5. อย่าอาย ให้ร้องดังๆ “ช่วยด้วยๆๆ” ให้คนมอง แล้วเอาวิกฤต เป็นโอกาส ให้ ไทยมุง ใครก็ได้ ช่วยถ่ายวีดีโอไว้ขณะนัน

affaliate-2

6. ให้บุคคลที่แสดงตัวเป็นเจ้าพนัก งาน หรือผู้ช่วยเจ้าพนักงานฯ นั้น ต้องแสดง บัตรประจำตัว ทุกคน แล้วให้ไทยมุง ช่วยๆกัน ถ่ายภาพหรือถ่ายคลิปส์ไว้ พร้อมอ่านชื่อ-สกุล ดังๆ และ สังกัด ของแต่ละคนดังๆ

7. ตัวเรานั้น หรือร้องขอให้คนรอบข้างแจ้งเหตุ 191 หรือตำรวจท้องที่ที่อยู่บริเวณนั้น หรือนักข่าวมายังที่เกิดเหตุได้

8. ให้เจ้าพนักงาน ที่จะทำการตรวจค้น เรานั้น โดยเราขอให้แต่ละบุคคล ถลกแขนเสื้อ ขึ้นให้หมด ทุกคน และถลกกระ เป๋ากางเกงออกให้ดูด้วย พร้อม ให้ไทยมุง ช่วยบันทึกภาพหรือบันทึกวิดีโอไว้!!!

affaliate-2

9. ตัวเรา ก็ต้อง แสดงความบริสุทธิ์ใจ เช่นกัน เช่น ถลก กระเป๋ากางเกง ทั้งสองข้าง ออก ให้เจ้า พนักงานดู

10. หาทางรีบติดต่อญาติหรือคนใกล้ชิดให้ได้เร็วที่สุดให้มาหาเราณที่เกิดเหตุ หรือณ จุดเกิดเหตุ สมมติว่าถ้าเราอยู่ตัวคนเดียวตะโกนดังว่า ขอให้พี่ๆ ไทยมุงอย่าเพิ่งไปไหนอยู่กันเยอะๆ ได้โปรดอยู่ เป็นเพื่อนก่อน

11. ถ้าเรา ถูกควบคุมตัว ถ้าของกลาง มิใช่ ของๆ เราห้ามหยิบ ห้ามจับ ห้ามแตะ เด็ดขาดขอย้ำๆๆ

12. อย่าไปกลัว ถูกซ้อม, อย่าไปกลัว ถูก ข่มขู่ ,ถ้าเราไม่ผิด นั้น อย่าลงชื่อใดๆในเอกสารทั้งสิ้นและถ้าจำต้องลงชื่อในเอกสารใดๆและมีหลายแผ่นนั้นขอให้อ่านช้าๆและอ่านให้เข้าใจแต่ละหน้าซึ่งถ้าถ้อยคำหรือข้อความไม่ใช่หรือไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงแล้วนั้นต้องขอให้แก้ไขให้เสร็จสิ้นเสียก่อนอล้วจึงลงชื่อย่อๆแต่ละหน้าๆเพื่อป้องกันการแก้ไขหรือเพิ่มเติม

13. ถ้าเรา ไม่ได้กระทำความผิดอย่าชี้จุด เกิดเหตุให้ถ่ายภาพหรืออย่าชี้ของกลาง ถ้าไม่ใช่ของเราอย่าชี้เด็ดขาด

14. ขณะถูกควบคุมให้ญาติ, พี่น้อง, คนไว้วางใจนั่งเฝ้าจนกว่าจะนำตัวส่งศาล

15. ขณะให้การใดๆ ร้องขอให้จนท.ติดตามผู้ซึ่งไว้วางใจ หรือทนายความเข้าฟังการสอบสวนจนกว่าจะแล้วเสร็จ

16. ถ้าเราไม่ผิดให้สวมวิญญาณนักร้อง (เรียน) เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน และหน่วยงานของรัฐหรือใช้สิทธิ์ทางศาลตามกระบวนการยุติธรรม

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนยังคงไม่รู้กับวิธีเหล่านี้ เพราะเราไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมายมากนัก เราควรรู้เอาไว้เพื่อจะได้เป็นการรักษาสิทธิ์และป้องกันตัวเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก : ทนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์

affaliate-2